ไทยโจวอี้ แหล่งความรู้อี้จิง เรียนอี้จิงออนไลน์
  • หน้าแรก
  • Courses
  • Blog
    • โลกแห่งอี้จิง
      • ประวัติความเป็นมา
      • บุคคลสำคัญ
      • บทความทั่วไป
    • อัฏฐลักษณ์
      • ความรู้พื้นฐาน
    • ฉักลักษณ์
      • ความรู้พื้นฐาน
      • บทความพิเศษ
    • คัมภีร์อี้จิง
      • ความรู้พื้นฐาน
    • อี้จิงพยากรณ์
      • พื้นฐานทั่วไป
      • โจวอี้พยากรณ์
      • วิชาลิ่วเหยา
      • อี้จิงดอกเหมย
  • Gallery
  • บัญชีของฉัน
  • เกี่ยวกับเรา
    • เกี่ยวกับเรา
    • เงื่อนไขและข้อตกลง
    • ติดต่อเรา
  • หน้าแรก
  • Courses
  • Blog
    • โลกแห่งอี้จิง
      • ประวัติความเป็นมา
      • บุคคลสำคัญ
      • บทความทั่วไป
    • อัฏฐลักษณ์
      • ความรู้พื้นฐาน
    • ฉักลักษณ์
      • ความรู้พื้นฐาน
      • บทความพิเศษ
    • คัมภีร์อี้จิง
      • ความรู้พื้นฐาน
    • อี้จิงพยากรณ์
      • พื้นฐานทั่วไป
      • โจวอี้พยากรณ์
      • วิชาลิ่วเหยา
      • อี้จิงดอกเหมย
  • Gallery
  • บัญชีของฉัน
  • เกี่ยวกับเรา
    • เกี่ยวกับเรา
    • เงื่อนไขและข้อตกลง
    • ติดต่อเรา
ไทยโจวอี้ แหล่งความรู้อี้จิง เรียนอี้จิงออนไลน์ > Blog > อี้จิงพยากรณ์ > วิชาลิ่วเหยา > วิชาลิ่วเหยา ตอนที่ 2

วิชาลิ่วเหยา ตอนที่ 2

  • 19/10/2016
  • Posted by: Liang
  • Category: วิชาลิ่วเหยา
ไม่มีความเห็น

หลังจากที่เราได้รู้จักกับการตั้งฉักลักษณ์และการใส่รายละเอียดเพื่อทำนายของวิชานี้แล้ว เราก็มาต่อด้วยการใส่รายละเอียดเพิ่มเติมในตอนที่ 2 นี้นะครับ สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนแรก แนะนำให้กลับไปอ่านบทความ วิชาลิ่วเหยา ตอนที่ 1 ก่อนนะครับ

หกเทพ หรือ ลิ่วเสิน (六神)

หลังจากที่เราได้รายละเอียดฉักลักษณ์เบื้องต้นแล้ว เราอาจจะต้องการรู้ว่าผลการทำนายนั้นจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องใด หรือผลดีร้ายที่ออกมานั้นจะเกี่ยวข้องกับเรื่องไหน ซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องใส่รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อเป็นตัวบอกข้อมูล นั่นก็คือการใส่ตำแหน่งของ เทพทั้งหก แต่อย่างไรก็ตามในบางครั้งหากเรื่องที่เราทำนายนั้นเป็นเรื่องที่เรารู้ต้นเหตุ และต้องการทำนายขอบเขตของการเกิดผลเท่านั้น การใส่ตำแหน่งของหกเทพนี้ก็อาจจะไม่จำเป็น เช่น การทำนายเรื่องภูมิอากาศของวันพรุ่งนี้ว่าจะมีฝนหรือไม่ ผลที่ออกมานั้นเป็นที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของฝนตกหรือไม่เท่านั้น เช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ตำแหน่งของหกเทพแต่อย่างใด โดยหกเทพ มีดังนี้

  1. มังกรเขียว หรือ ชิงหลง (青龙 หรือ 青龍-ตัวเต็ม) มีรูปลักษณ์เป็นมังกรสีเขียว เป็นเทพมงคล ธาตุไม้ อยู่ทิศตะวันออก มีความหมายเกี่ยวกับความเป็นมงคล เรื่องอันน่ายินดีปปรีดา การได้รับผลประโยชน์ การแต่งงาน การมีงานมงคล การได้รับสิ่งที่ดี
  2. นกแดง หรือ จูเชว่ (朱雀) มีรูปลักษณ์เป็นนกสีแดงชาด เป็นเทพแห่งปากเสียง ธาตุไฟ อยู่ทิศใต้ มีความหมายเกี่ยวกับเรื่องของการมีปากเสียง ข่าวคราว เอกสาร นินทา บทความ คดีความ ความร้อนรนอยู่ไม่สุข
  3. โกวเฉิน (勾陈 หรือ 勾陳-ตัวเต็ม) ไม่ได้มีรูปลักษณ์เป็นสัตว์ เป็นเทพแห่งที่ดินและไร่นา ธาตุดิน อยู่ทิศกลาง มีความหมายเกี่ยวกับเรื่องของที่ดิน ที่นา โกดัง ที่เก็บของ การหยุดชะงัก ช้า การฝังไว้ การถูกกักขัง การเจ็บป่วย
  4. งูเหิน หรือ เถิงเสอ (螣蛇) มีรูปลักษณ์เป็นงู เป็นเทพแห่งการหลอกลวง ธาตุดิน ไม่มีทิศทาง มีความหมายเกี่ยวกับเรื่องข่าวโคมลอย การเลื่อนลอยไม่นิ่ง ของปลอม สิ่งที่ไม่ได้ดีจริงๆ การโกง การหลอกลวง
  5. พยัคฆ์ขาว หรือ ไป๋หู่ (白虎) มีรูปลักษณ์เป็นเสือสีขาว ธาตุทอง ทิศตะวันตก เป็นเทพอัปมงคล มีความหมายเกี่ยวกับเรื่องของการเข่นฆ่า ความรุนแรง สงคราม ตายโหง งานศพ เลือดตกยางออก อุบัติเหตุ ร้องไห้ การตายอย่างเฉียบพลัน การบาดเจ็บ
  6. เสวียนอู่ (玄武) มีรูปลักษณ์เป็นเต่าสีดำมีงูพันรอบตัว ธาตุน้ำ ทิศเหนือ เป็นเทพแห่งการปกปิดซ่อนเร้น มีความหมายเกี่ยวกับ โจร ขโมย การทำผิดกฏหมาย การปิดบัง การข่มขืน มีชู้ หรือมีรักซ่อนเร้นที่เปิดเผยไม่ได้ การมีเพศสัมพันธ์ ลึกลับ ซ่อนเงื่อน ไม่ชอบมาพากล คนใจคด

ตำแหน่งหกเทพนั้น จะหาได้จาก ต้นฟ้า(เทียนกาน) หรือ ราศีฟ้า ของวันที่เราทายหรือตั้งฉักลักษณ์ โดยขอสรุปเป็นตารางเพื่อง่ายต่อการใช้งานดังนี้ครับ

liushen
ตารางสรุปการวางตำแหน่งของหกเทพ

*** สำหรับตารางสรุปนี้ ผมขอใส่เป็นภาษาจีนไปเลยนะครับ อยากให้ท่านที่อ่านได้ลองเทียบด้วยตัวเองด้วย เผื่อจะได้ดูตัวจีนออกในภายหลังครับ

ตัวอย่างนะครับ เช่นวันที่เราทำนาย เป็นวัน เอก(เจี่ย-甲) หรือวัน โท(อี่-乙) เราจะวางตำแหน่งมังกรเขียวที่เส้นแรกหรือเส้นล่างสุดของฉักลักษณ์ครับ จากนั้นเส้นสองจะเป็นนกแดง ตามด้วยโกวเฉิน ไปจบเส้นหกหรือเส้นบนสุดที่เสวียนอู่ หรือถ้าเราทำนายในวัน เบญจ(อู้-戊) ก็จะได้โกวเฉินอยู่ในเส้นแรก งูเหินในเส้นที่สอง พยัคฆ์ขาวในเส้นที่สาม ไปจนถึงนกแดงที่เส้นบนสุดครับ

ปกติแล้ว การใส่ตำแหน่งหกเทพนี้ บางครั้งจะไม่ใส่ แต่ถ้าต้องใส่ ก็ให้เขียนอยู่ซ้ายสุดแยกห่างออกไปจากรายละเอียดอื่นสักหน่อยครับ โดยใส่ให้ตรงกับตำแหน่งเส้นแต่ละเส้นในฉักลักษณ์ครับ

ว่างหาย หรือ คงหวัง (空亡)

ตำแหน่งว่างหาย ภาษาจีนกลางเรียกว่าคงหวัง ซินแสแต้จิ๋วจะเรียกว่าคงบ๊วง(มั๊งครับ) คือตำแหน่งในปฏิทินที่ กิ่งติน(ตี้จือ) หรือ ราศีดิน ขาดหายจากรอบสิบวัน อธิบายง่ายๆคือ ในต้นฟ้าหรือราศีฟ้านั้นมีอยู่ 10 ลำดับ แต่กิ่งดินหรือราศีดินมีอยู่ 12 ลำดับ เวลาจับคู่กันจะกลายเป็นว่าลำดับที่ได้นั้นไม่พอดีกัน คือกลายเป็นว่ากิ่งดินนั้นจะจับคู่กับต้นฟ้าได้แค่สิบลำดับเท่านั้น แต่จะขาดอยู่สองลำดับ ซึ่งต้องยกไปจับคู่กับกิ่งฟ้าในรอบสิบถัดไป ดังนั้นกิ่งดินสองตัวที่ขาดและถูกยกไปจับคู่กับต้นฟ้าในรอบถัดไปนั่นแหละคือตำแหน่งว่างหาย หากสรุปเป็นตารางจะได้ดังนี้ (สำหรับท่านที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ด้านปฏิทินจีนมาก่อน สำหรับเรื่องนี้กรุณากลับไปอ่าน ระบบกาลของจีน ตอนที่ 2 ครับ)

kongwang
ตารางหาตำแหน่งคงหวังจากคู่ลำดับของต้นฟ้า-กิ่งดิน

วิธีหาในการทำนายนะครับ ก็คือใช้คู่ลำดับ ต้นฟ้า-กิ่งดิน ของวันครับ ใช้วันที่เราทำนายนั่นแหละครับ ดูว่าวันที่ทำนายเป็นวันอะไร แล้วก็หาว่าตำแหน่งว่างที่ได้นั้นคือกิ่งดินตัวไหน ซึ่งจะได้สองตัวเสมอครับ แบบบอกนี้น่าจะยังงงนะครับ เรามาดูตัวอย่างกันครับ เช่น วันที่เราทำนายเป็นวัน จัตวา-กุน หรือวัน ติง-ไฮ่(丁亥) เราก็เทียบดูว่า กิ่งดิน ตัวที่เหลือคืออะไร ซึ่งก็จะได้เป็น มะเมียกับมะแม หรือ อู่เว่ย(午未) ครับนั่นก็คือตำแหน่งว่างหาย ก็คือ มะเมียกับมะแมหรืออู่กับเว่ย นั่นเองครับ

ความหมายของว่างหายในการทำนายหกเส้น

ในการทำนายหกเส้นหรือลิ่วเหยานั้น ตำแหน่งว่างหายถือเป็นตำแหน่งสำคัญหนึ่ง ซึ่งหากปรากฏว่ากิ่งดินในเส้นใดๆที่เราทำนายนั้นตกอยู่ในตำแหน่งว่างหาย หากเป็นเรื่องดีแสดงว่ายังมาไม่ถึง หากเป็นเรื่องร้ายหรือเส้นที่ทำร้ายแสดงว่ายังไม่เกิด หากเป็นเรื่องจิตใจก็แสดงว่าผู้ถาม หรือผู้ที่ถูกถามถึงนั้นจิตใจว่างเปล่าหรือไม่มีการร่วมใจด้วยกัน หากทายสิ่งของก็ต้องทายว่าสิ่งของนั้นๆ ไม่อยู่ หายไป หรือยังมาไม่ถึง เนื่องจากกิ่งดินใดที่ตกอยู่ในตำแหน่งว่างหายนั้นจะไร้พลังหรือบทบาทนั่นเอง ดังนั้นการจะรอให้ส่งผลได้นั้นจะต้องรอให้กิ่งดินในเส้นนั้นๆออกจากว่างหายเสียก่อน การจะออกจากว่างหายนั้นก็คือต้องผ่านรอบสิบนั้นๆ  จนไปขึ้นรอบสิบใหม่ซึ่งมีกิ่งดินซึ่งตกตำแหน่งว่างหายนั้นปรากฏขึ้นมา หรือง่ายๆก็คือจนกว่าจะถึง วัน เดือน ปี ที่มีกิ่งดินที่ตกตำแหน่งว่างหายนั้นอยู่ ซึ่งนั่นหมายความว่า ตำแหน่งว่างหายเองก็สามารถเป็นตัวกำหนดเวลาเกิดเหตุตามที่ทายได้ด้วยเช่นกัน สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจะมีในบทความตอนต่อๆ ไปครับ

การเสี่ยงทายด้วยเหรียญ ลายลักษณ์ ลิ่วเหยา

หมวดหมู่

เรื่องล่าสุด

  • การป่วยของชิโมมุระ
  • การค้นหาเงินที่หายไป
  • ลำดับความหมายในลายลักษณ์
  • ความหมายของตรีลักษณ์ทั้งแปด (เชิงรูปลักษณ์)
  • จ้าวเจิ้งยุคสามก๊กทำนายหยางอี้ (เอียวหงี)

คลังเก็บ

  • กรกฎาคม 2019
  • มกราคม 2017
  • ตุลาคม 2016
  • กันยายน 2016
  • มีนาคม 2016
  • กุมภาพันธ์ 2016

ความเห็นล่าสุด

    Footer logo
    เนื้อหาทั้งหมดในเว็บนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ปี 2537
    • หน้าแรก
    • เกี่ยวกับเรา
    • เงื่อนไขและข้อตกลง
    • ติดต่อเรา
    Search